วันพฤหัสบดีที่ 14 มกราคม พ.ศ. 2559

เพลงชาติสิงคโปร์





เพลงชาติสิงคโปร์

ชื่อเพลง : มาจูละห์ ซีงาปูรา (Majulah Singapura) แปลว่า “สิงคโปร์จงเจริญ”

เนื้อร้อง 

Mari kita rakyat Singapura

Sama-sama menuju bahagia

Cita-cita kita yang mulia

Berjaya Singapura



Marilah kita bersatu

Dengan semangat yang baru

Semua kita berseru

Majulah Singapura

Majulah Singapura


คำแปล

 มาเถิด เราชาวสิงคโปร์ทั้งหลาย

มาร่วมมุ่งหน้าสู่ความสุขร่วมกัน

ขอความปรารถนาอันทรงเกียรติ

ของเรานั้นจงดลให้ประเทศ

สิงคโปร์ประสบผลสำเร็จ



มาเถิด เรามาสามัคคีกัน

ในจิตวิญญาณดวงใหม่

เราผองจงตะโกนก้องว่า

สิงคโปร์จงเจริญ

สิงคโปร์จงเจริญ


1. แผนที่

   แผนที่ 



  •  เป็นนครรัฐสมัยใหม่และประเทศเกาะที่มีขนาดเล็กที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ตั้งอยู่นอกปลายทิศใต้ของคาบสมุทรมลายูและอยู่เหนือเส้นศูนย์สูตร 137 กิโลเมตร ดินแดนของประเทศประกอบด้วยเกาะหลักรูปสี่เหลี่ยมขนมเปียกปูน ซึ่งมักเรียกว่าเกาะสิงคโปร์ในภาษาอังกฤษ และเกาะอูจง (Pulau Ujong) ในภาษามลายู และเกาะที่เล็กกว่ามากอีกกว่า 60 เกาะ ประเทศสิงคโปร์แยกจากคาบสมุทรมลายูโดยช่องแคบยะฮอร์ทางทิศเหนือ และจากหมู่เกาะรีเยาของประเทศอินโดนีเซียโดยช่องแคบสิงคโปร์ทางทิศใต้ ประเทศมีลักษณะแบบเมืองอย่างสูง และคงเหลือพืชพรรณดั้งเดิมเล็กน้อย ดินแดนของประเทศขยายอย่างต่อเนื่องโดยการแปรสภาพที่ดิน
  •  ภูมิศาสตร์  ภาคกลางและภาคตะวันตกเป็นเนินเขา ซึ่งเนินเขาทางภาคกลางเป็นเนินเขาที่สูงที่สุดของประเทศเป็นต้นกำเนิดของแม่น้ำสายสำคัญของสิงคโปร์ และภาคตะวันออกเป็นที่ราบต่ำ ชายฝั่งทะเลมักจะต่ำกว่าระดับน้ำทะเล ต้องมีการถมทะเล

2. เมืองหลวง

เมืองหลวง 



กรุงสิงคโปร์

3.พื้นที่ประเทศ

พื้นที่ประเทศ 
  • พื้นที่ 699 ตารางกิโลเมตร

4. จำนวนประชากร

จำนวนประชากร
  
     จำนวนประชากร 4480000  คน อยู่ในวัยแรงงานร้อยละ 65  แรงงานส่วนใหญ่ คือประมาณร้อยละ 32 ประกอบอาชีพเฉพาะทาง (Professional and Technical Jobs)  อีกร้อยละ 17 อยู่ในภาคการผลิต (Manufacturing) ร้อยละ 15  เป็นนักบริหารจัดการ (Administrative and Managerial Jobs) ร้อยละ 12  อยู่ในภาคบริการ (Business Services) ร้อยละ 6 อยู่ในภาคการเงิน (Financial Services) ที่เหลืออีกร้อยละ 18 ประกอบอาชีพอื่นๆ  ประชากรร้อยละ 60 เป็นชาวจีน ร้อยละ 10 เป็นชาวมาเลย์  ร้อยละ 7 เป็นชาวอินเดีย  อีกร้อยละ 23 เป็นประชากรเชื้อชาติอื่นๆ   


5. ระบบการปกครอง

ระบบการปกครอง

   ระบอบประชาธิปไตยแบบรัฐสภา มีสภาเดียว
สิงคโปร์ปกครองโดยระบอบประชาธิปไตยแบบรัฐสภา มีรัฐธรรมนูญเป็นกฎหมายสูงสุด (The Constitution) แบ่งอำนาจการปกครองเป็น 3 ส่วน ดังนี้

1. สภาบริหาร (The Executive) ประกอบด้วยประธานาธิบดี และคณะรัฐมนตรี  ซึ่งมีหน้าที่บริหารประเทศผ่านกระทรวง ทบวง กรม และหน่วยงานในสังกัดราชการอื่นๆ

ประธานาธิบดีสิงคโปร์มาจากการเลือกตั้งโดยตรงจากประชาชน มีวาระดำรงตำแหน่ง 6 ปี  โดยประธานาธิบดีคนปัจจุบัน คือ นายเซลลาปัน รามา นาทาน (Mr. Sellapan Rama Nathan) เป็นประธานาธิบดีคนที่ 6 ของสิงคโปร์ แต่เป็นคนที่ 2 ที่มาจากการเลือกตั้ง  เข้าดำรงตำแหน่งเป็นสมัยที่ 2  เมื่อวันที่  1 กันยายน 2548

คณะรัฐมนตรีสิงคโปร์มาจากการเลือกตั้งทั่วไปทุก 5 ปี   พรรคการเมืองสำคัญ 4 พรรค ได้แก่ People’s Action Party (PAP) ของนายลี เซียน ลุง (Lee Hsien Loong)  ก่อตั้งในปี 2497 ซึ่งนับตั้งแต่ปี 2502 ที่เริ่มมีการเลือกตั้ง  พรรค PAP ได้รับคะแนนเสียงข้างมาก และจัดตั้งรัฐบาลปกครองประเทศด้วยความมั่นคงมาตลอด Worker’s Party (WP) ก่อตั้งขึ้นในปี 2500 ปัจจุบันมีนาย Low Thia Kiang เป็นหัวหน้าพรรค  Singapore Democratic Party (SDP) ก่อตั้งในปี 2523 ภายใต้การนำของนาย Chee Soo Juan  และ Singapore Democratic Alliance (SDA)  ก่อตั้งเมื่อปี 2544 จากการรวมพรรคเล็กหลายพรรค  ปัจจุบันมีนาย Chiam See Tong เป็นหัวหน้าพรรค

สำหรับตำแหน่งสำคัญในคณะรัฐมนตรีปัจจุบัน ได้แก่

- นาย ลี เซียน ลุง (Lee Hsien Loong) นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง

- นาย โก๊ะ จ๊ก ตง (Goh Chok Tong) รัฐมนตรีอาวุโส และ Chairman of the Monetary Authority of Singapore

- นาย ลี กวน ยู (Lee Kuan Yew) รัฐมนตรีที่ปรึกษา

-  ศาสตราจารย์ เอส จายากูมาร์ รองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวง (Jayakumar Shunmugam) กฎหมาย และรัฐมนตรีประสานงานกิจการ ด้านความมั่นคงแห่งชาติ

- นายจอร์จ เอี่ยว (George Yeo) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ

- นาย ลิม เฮง เกียง (Lim Hng Kiang) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการค้าและอุตสาหกรรม

 2. รัฐสภา (Parliament) มาจากการเลือกตั้งทั่วไป ครั้งล่าสุดวันที่ 6 พฤษภาคม 2549        ได้สมาชิกสภาผู้แทนรวม 84 คน แบ่งเป็นฝ่ายรัฐบาล รวม 82 คน มาจากพรรค People’s Action Party และฝ่ายค้านมี 2 คน มาจากพรรค Worker’s Party และพรรค Singapore Democratic Alliance  สำหรับการเลือกตั้งครั้งต่อไปกำหนดในต้นปี 2554

3. สภาตุลาการ (The Judiciary) แบ่งเป็น 2 ระดับ ได้แก่ ศาลชั้นต้น (Subordinate Courts)  และศาลฎีกา (Supreme Court)


6. ภาษา ราชการ

ภาษา ราชการ 
  • ภาษาจีน 47%
  • ภาษาอังกฤษ 33 %
  • ภาษามาลายู 15%
  • ภาษาทมิฬ อินเดีย และอื่นๆ 5 %

7. เชื้อชาติ

เชื้อชาติ 
  • จีน 77%
  • มาลายู 14%
  • อินเดีย 8 %

8. ศาสนา

 ศาสนา 

  1. พุทธ 42.5%
  2. อิสลาม 14.9%
  3. คริสต์ 14.5%
  4. ฮินดู 4%
  5. ไม่นับถือ 25%

9. ตราสัญลักษณ์

ตราสัญลักษณ์ 






  ความหมาย เริ่มใช้ครั้งแรกเมื่อปี 2502 เมื่อวันที่ 3 ธันวาคม พ.ศ. 2502 พร้อมกันกับธงชาติ และเพลงชาติสิงคโปร์ ณ ห้องสาบานตนประธานาธิบดีแห่งสิงค์โปร์ ที่ศาลาว่าการของเมืองสิงคโปร์ซิตี้ ลักษณะของตราแผ่นดิน เป็นรูปสิงโตและเสือถือโล่สีแดง ซึ่งมีรูปดาวห้าแฉกสีขาว 5 ดวง และพระจันทร์เสี้ยวสีขาวซึ่งเป็นสัญลักษณ์ สำคัญที่ใช้บนธงชาติของสิงคโปร์ เสือเป็นสัญลักษณ์แสดงถึงความผูกพันทางประวัติศาสตร์กับประเทศมาเลเชีย และสิงโตเป็นสัญลักษณ์แสดงถึงสิงคโปร์ ด้านล่างของตราแผ่นดินเป็นริบบิ้นสีน้ำเงินจารึกคำขวัญประจำชาติด้วยตัวหนังสือที่ทองว่า "Majulah singapura:" ซึ่งมีความหมายว่า "สิงคโปร์จงเจริญ

10. อาหาร

อาหาร 





  • ลักสา (Laksa)  

  ลักซา (Laksa) อาหารยอดนิยมของสิงคโปร์ เป็นก๋วยเตี๋ยวต้มยำ (ใส่กะทิ) ลักษณะคล้ายข้าวซอยของไทย  น้ำแกงเข้มข้นด้วยรสชาติของกะทิ กุ้งแห้ง และพริก โรยหน้าด้วยกุ้งต้ม หอยแครง ลักชามีหลายประเภททั้งแบบที่  ใส่กะทิ และไม่ใส่กะทิ







  • ปูพริก

   ปูพริก เป็นอาหารสิงคโปร์แท้ ๆ ดั้งเดิมโดยพ่อครัวชาวสิงคโปร์ที่ชื่อว่า  CherYam ในปี ค.ศ. 1950 สามารถ  พบได้ในประเทศมาเลเซีย สิงคโปร์ แม้ปูพริกจะชื่อว่าปูพริกแต่ก็รสชาติไม่เผ็ดมาก                                                         


11. สกุลเงิน

สกุลเงิน 


ดอลลาร์สิงคโปร์
SGD
1 บาท =0.04 ดอลลาร์สิงคโปร์

12. ประวัติศาสตร์

ประวัติศาสตร์ 
  
     สิงคโปร์เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ปลายสุดแหลมมาลายู เป็นสถานพักสินค้าของพ่อค้าทั่วโลก เดิมชื่อว่า เทมาเส็ก (ทูมาสิค) มีกษัตริย์ปกครอง ต่อมาในคริสต์ศตวรรษที่ 17 ได้มีเจ้าผู้ครองนครปาเล็มบังเดินทางแสวงหาดินแดนใหม่เพื่อสร้างเมือง แต่เรือก็อับปางลง พระองค์ได้ว่ายน้ำขึ้นฝั่ง แล้วก็เห็นสัตว์ชนิดหนึ่งมีรูปร่างลำตัวสีแดงหัวดำหัวคล้ายสิงโตหน้าอกขาว พระองค์จึงถามคนติดตามว่า สัตว์ตัวนั้นคืออะไรคนติดตามก็ตอบว่ามันคือ สิงโต พระองค์จึงเปลี่ยนชื่อเทมาเส็กเสียใหม่ว่า สิงหปุระ ต่อมาสิงหปุระก็ได้ตกเป็นของสุลต่านแห่งมะละกา ประเทศแรกที่มายึดสิงคโปร์ไว้ได้คือโปรตุเกส เมื่อปี ค.ศ. 1511 แล้วก็ถูกชาวดัตช์มาแย่งไป แต่ประมาณปี ค.ศ. 1817 อังกฤษได้แข่งขันกับดัตช์ในเรื่องอาณานิคม อังกฤษได้ส่งเซอร์ โทมัส แสตมฟอร์ด บิงก์เลย์ แรฟเฟิลส์ มาสำรวจดินแดนแถบสิงคโปร์ ตอนนั้นสิงคโปร์ยังมีสุลต่านปกครองอยู่ แรฟเฟิลส์ได้ตกลงกับสุลต่านว่า จะตั้งสถานีการค้าของอังกฤษที่นี่ แต่สุดท้ายอังกฤษก็ยึดสิงคโปร์ไว้เป็นเมืองขึ้นได้สำเร็จ ค.ศ. 1819 เซอร์ แสตมฟอร์ด ราฟเฟิล สำรวจเกาะสิงคโปร์ และก่อตั้งประเทศ ประเทศญี่ปุ่นได้ประกาศสงครามกับอังกฤษ และก็สามารถยึดครองสิงคโปร์ไว้ได้ แต่เมื่อสงครามสิ้นสุดลง อังกฤษก็ได้ครอบครองสิงคโปร์เหมือนเดิม เมื่อสิงคโปร์เห็นมาเลเซียได้รับเอกราชจากอังกฤษ สิงคโปร์จึงรีบขอรวมชาติเข้ากับมลายูกลายเป็นสหภาพมลายาทันที เพื่อจะได้ไม่เป็นเมืองขึ้นของอังกฤษอีก แต่สิงคโปร์ก็ไม่พอใจกับมาเลเซียมากนักเพราะมีการเหยียดชนชาติกัน ทำให้พรรคกิจประชาชนของสิงคโปร์ประกาศให้สิงคโปร์เป็นเอกราชตั้งแต่วันที่ 9 สิงหาคม ค.ศ. 1965 ตั้งแต่บัดนั้นมาในชื่อ สาธารณรัฐสิงคโปร์ เมื่อแยกตัวออกมาแล้วพรรคกิจประชาชนก็ครองประเทศมาตลอดจนถึงทุกวันนี้

13. เงินเดือน ค่าแรงขั้นต่ำ

เงินเดือน ค่าแรงขั้นต่ำ 

  • 2000 บาทต่อวัน
  • 60000 บาทต่อเดือน  

14.ชุดแต่งกาย

 ชุดแต่งกาย  

  • หญิง เสื้อและผ้าถุง ตัดเย็บด้วยผ้าพิมพ์ลายปาเต๊ะสีสันสดใส คอกลมกว้าง แขนเสื้อยาวสามส่วน


  • ชาย สวมเสื้อแขนยาว คอจีน เสื้อผ้าหน้าซ่อนกระดุม สวมกางเกงขายาว โดยเสื้อจะใช้ผ้าสีเรียบหรือผ้าแพรจีนก็ได้



15. แหล่งท่องเที่ยว

แหล่งท่องเที่ยว 
1.ยูนิเวอร์แซล สตูดิโอ สิงคโปร์ (Universal Studios Singapore)

   ยูนิเวอร์แซล สตูดิโอ สิงคโปร์ สวนสนุกแห่งใหม่ในเครือบริษัทยูนิเวอร์แซล พาร์ค แอนด์ รีสอร์ท ที่ได้เปิดสวนสนุกในรัฐฟลอริดาและแคลิฟอร์เนียของสหรัฐ รวมถึงญี่ปุ่น ยูนิเวอร์แซล สตูดิโอ สิงคโปร์ เป็นสวนสนุกในเครือยูนิเวอร์แซลแห่งแรกที่เปิดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และกำลังจะเปิดที่ดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
   ในสวนสนุกยูนิเวอร์แซล สตูดิโอ สิงคโปร์ มีเครื่องเล่นทั้งหมด 24 ชนิด โดยเป็นเครื่องเล่นที่ออกแบบใหม่จำนวน 18 ชนิด พื้นที่สวนสนุกประกอบด้วยธีมปาร์คที่รวมตัวละครและสถานที่ในภาพยนตร์แอนิเมชั่นชื่อดังของบริษัทดรีมเวิร์คส์ แอนิเมชั่น คือมาดากัสการ์ (Madagascar)และเชร็ค (Shrek)
   ธีมปาร์คในยูนิเวอร์แซล สตูดิโอ สิงคโปร์ จะจำลองเกาะมาดากัสการ์ขึ้นมา ประกอบด้วย ทะเล เรือเดินสมุทร และป่าที่บรรดา 4 สหายคือ อเล็กซ์ มาร์ตี้ เมลแมนและกลอเรีย รวมถึงตัวละครเอกในเรื่องเข้าไปในผจญภัยอยู่ในเกาะแห่งนี้ ธีมปาร์คส่วนนี้มีชื่อว่า "มาดากัสการ์ : ป่วนป่าแอฟริกา (Madagascar : A Crate Adventure)"
   เครื่องเล่นในธีมปาร์คมาดากัสการ์ประกอบด้วยการนั่งเรือผ่านฉากต่างๆที่เป็นส่วนหนึ่งของภาพยนตร์ ซึ่งเหมือนกับได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของการผจญภัยในเรื่องมาดากัสการ์ด้วยเช่นกัน
    ธีมปาร์คที่อยู่ใกล้ๆกันคือ ปราสาทฟาร์ ฟาร์ อเวย์ (FarFar Away Castle) ของฮีโร่ตัวเขียวเชร็ค และเจ้าหญิงฟีโอน่าในภาพยนตร์เรื่องเชร็ค ซึ่งเป็นปราสาทของกษัตริย์ฮาโรลด์และเป็นที่ประทับของเจ้าหญิงฟีโอน่า ตัวปราสาทมีความสูง 40 เมตร สิ่งที่น่าสนใจในธีมปาร์คแห่งนี้คือมัลติมีเดียเชร็ค 4D, การโชว์ร้องเพลงของดองกี้ และเครื่องเล่นมหาสนุกเมจิก โพชั่น

  ในโซนธีมปาร์คมาดากัสการ์และปราสาทฟาร์ ฟาร์ อเวย์ มีเครื่องเล่นอื่นๆอีก เช่น โรลเลอร์ โคสเตอร์ ที่มีชื่อว่าเอนเชนเท็ด แอร์เวย์, ม้าหมุนบีช ปาร์ตี้ และกิจกรรมอื่นๆอีกมากมาย นอกจากนี้ยังมีร้านอาหาร ร้านขายของที่ระลึกเกี่ยวกับตัวละครในภาพยนตร์ของดรีมเวิร์คส์อีก 10 แห่ง
   นอกจากธีมปาร์ค 2 แห่งในยูนิเวอร์แซล สตูดิโอ สิงคโปร์ แล้วยังมีโซนที่น่าสนใจอีก 5 โซน เช่น เมืองไซไฟ, โซนอียิปต์, โซนนิวยอร์ก, โซนเดอะลอสต์เวิลด์ ที่จำลองฉากจากภาพยนตร์เรื่องจูราสสิคปาร์ค และโซนฮอลลีวู้ด บูเลอวาร์ด นอกจากนี้ยังมีสตูดิโอสำหรับการแสดงสดที่เกี่ยวข้องกับการถ่ายทำภาพยนตร์ด้วย 

  2.สวนสัตว์ Singapore Zoo
 สวนสัตว์สิงคโปร์ (Singapore Zoological Gardens) อีกหนึ่งแหล่งท่องเที่ยวที่ผู้มาเยือนสิงคโปร์ไม่ควรพลาด เริ่มเปิดเมื่อ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2516 สวนสัตว์แห่งนี้เป็นที่อยู่ของสัตว์กว่า 2,000 ตัว ซึ่งมีทั้งสัตว์ป่า สัตว์เลื้อยคลาน และสัตว์ปีก สวนสัตว์เปิดแห่งนี้ซึ่งมีสัตว์ป่านานาชนิด ที่น่าสนใจให้ชม โดยจัดสภาพแวดล้อมสำหรับที่อยู่อาศัยของสัตว์ต่างๆ โดยใช้กำแพงหินและลำธารแทนการใช้กรงขัง สวนสัตว์สิงคโปร์ได้ชื่อว่าเป็น "สวนสัตว์ที่สวยที่สุดในโลกแห่งหนึ่ง" สวนสัตว์มีพื้นที่ทั้งหมด 90 เฮกเตอร์ ส่วนที่เป็นพื้นที่สำหรับสัตว์อาศัยอยู่มี 28 เฮกเตอร์ 

จุดเด่นของสวนสัตว์สิงคโปร์ ภายในจะแบ่งออกเป็นโซนต่างๆ11โซนด้วยกันได้แก่
1. Frozen Tundra พบกับหมีขั้วโลกขาว และสัตว์ที่อาศัยอยู่แถบขั้วโลกเหนือ
2. Wild Africa สัตว์ป่าจากแอฟริกา
3. Fragile Forest ตัดแสดงในส่วนที่เกี่ยวกับป่าฝนเขตร้อน
4. Australian Outback
5. Great Rift Valley of Ethiopia
6. Treetop Trail
7. Gibbon Island
8. Primate Kingdom
9. Reptile Garden
10. Critters Longhouse
11. Tropical crops and orchid garden



 ไฮไลท์ของที่นี่คือ เสือโคร่งขาว, ช้างเอเชีย, Proboscis Monkey หรือลิงจมูกยาว, อุรังอุตัง, ฮิปโปแคระ, ตัวตุ่นเปลือย และอื่นๆ 



3.สวนดอกไม้ Botanical Gardens
  

   ถ้าใครเคยได้ไปประเทศสิงคโปร์จะสังเกตเห็นได้ว่าประเทศนี้ต้นไม้ใหญ่ เยอะจริงๆ สองข้างทางถนนร่มรื่นตลอดเส้นทาง ต้นไม้อายุหลาย 10 ปี สูงราวตึก 4-5 ชั้น เป็นปอดอย่างดีให้กับคนสิงคโปร์ ต้นไม้ที่ว่านี้ไม่ได้ขึ้นเองตามธรรมชาติแต่เป็นความพยายามที่จะพัฒนาเมืองให้เป็นเมืองแห่งสวน “greening Singapore” หรือ “Garden City” ความพยายามนี้เริ่มตั้งแต่ตอนที่ Sir Thomas Stamford Raffles เข้ามาดูแลสิงคโปร์ และมีการสืบทอดความตั้งใจนี้มาเรื่อยๆ จนถึงปัจจุบันนี้
    สวนพฤกษศาสตร์สิงคโปร์ (Singapore Botanic Gardens) ก็เป็นหนึ่งในความตั้งใจที่จะทำให้สิงคโปร์เป็นเมืองแห่งสวน จากการหาข้อมูลก็พบว่าสวนพฤกษศาสตร์แห่งนี้มีอะไรที่น่าสนใจหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการก่อตั้งมาตั้งแต่ปี ค.ศ 1859 มีพืชหลากหลายสายพันธุ์ มีป่าฝน (Rainforest) สวนกล้วยไม้สายพันธุ์ใหม่ เป็นสวนพฤกษศาสตร์ที่เปิดตั้งแต่ 5.00 – 24.00 น. ซึ่งเป็นสวนฯ ที่ปิดดึกที่สุดในโลก และไม่มีการเก็บค่าเข้าชม ยกเว้นในส่วนของ National Orchid Garden
    ด้วยความที่ผมเป็นคนชอบต้นไม้อยู่แล้ว เลยคิดว่ามาสิงคโปร์ครั้งนี้จะมาชมสวน Singapore Botanic Gardens และกลับไปเขียนรีวิวดีๆ ให้กับคนที่สนใจมาชมสวนแห่งนี้ รีวิวที่มีในอินเตอร์เนต pantip ในตอนนี้ก็เป็นรีวิวที่ไปมานานแล้ว และไม่ค่อยละเอียดเท่าไหร่
  
   ที่ตั้งของ Singapore Botanic Gardens
จะอยู่ห่างจาก MRT Orchard ประมาณ 1.5 กิโลเมตร และเมื่อไม่นานมานี้มีการเปิดใช้งานสถานีใหม่ MRT Botanic Gardens ซึ่งอยู่ติดกับ Singapore Botanic Gardens ทางฝั่งทิศเหนือของสวน ทำให้การเดินทางไปสวนพฤกษศาสตร์ ง่ายและสะดวกมากขึ้น

4.เรือภัตตาคาร Boat Quay and Clarke Quay
เมืองไทยมีเรือหางยาว สิงคโปร์ก็มีเรือ Bumboat เอาไว้ให้บริการนักท่องเที่ยวที่อยากสัมผัสทัศนียภาพสองฝั่งแม่น้ำสิงคโปร์

เจ้า Bumboat คือเรือท้องแบน ที่แต่เดินเอาไว้ขนถ่ายสินค้าจากสำเภาใหญ่นอกปากอ่าวเข้ามาในตัวเมืองชั้นใน ทุกวันนี้ถูกดัดแปลงกลายเป็นเรือท้องเที่ยวที่เป็นสัญลักษณ์อย่่างหนึ่งของประเทศสิงคโปร์ แถมได้รับความนิยมอย่างกว้างขวางมีนักท่องเที่ยวที่ต้องการสัมผัสชีวิตของเมืองริมน้ำทยอยมาใช้บริการไม่ได้หยุดหย่อน


5.ชิงช้าสวรรค์ Singapore Flyer
 Singapore Flyer สิงคโปร์ฟลายเยอร์ ชิงช้าสวรรค์ยักษ์ ตั้งเด่นอยู่บริเวณอ่าวมาริน่าเบย์ มีความสูงเท่ากับตึก 42 ชั้น หรือ 165 เมตร ทำให้มันขึ้นชื่อว่าเป็นชิงช้าสวรรค์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกเลย แต่ละแคปซูลจะสามารถจุคนได้ทั้งหมด 28 คน รอบการหมุนใช้เวลาประมาณ 30 นาทีให้คุณได้มีเวลาเก็บภาพวิวสวยและถ่ายรูปคู่กับบรรยากาศด้านบนไว้เป็นที่ระลึกได้



  6.พิพิธภัณฑ์แห่งชาติสิงคโปร์



  พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติสิงคโปร์ (National Museum of Singapore) ซึ่งเป็นพิพิธภัณฑ์ที่เก่าแก่ที่สุดในสิงคโปร์ ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2392 มีอายุกว่าร้อยปีและยังเป็นพิพิธภัณฑ์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศสิงคโปร์ ก่อตั้งในปี พ.ศ. 2392 มีอายุกว่าร้อยปีและยังเป็นพิพิธภัณฑ์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศสิงคโปร์อีกด้วย มีการออกแบบอาคารด้วยศิลปะเรอเนซองส์ เป็นศูนย์รวมของประวัติศาสตร์และวิวัฒนาการของสิงคโปร์ตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน พิพิธภัณฑ์แห่งนี้เคยเป็นอาคารห้องสมุดก่อนในตั้งแต่ปี พ.ศ. 2430 หลังจากนั้นได้ปิดปรับปรุงเพื่อบูรณะใหม่และเปิดให้เข้าชมได้อีกครั้งในปัจจุบัน ภายในจะจัดแสดงทั้งลักษณะของภาพนิ่ง ภาพเคลื่อนไหว แสง สี เสียง กลิ่น เรียกว่ามีครอบทุกอย่าง หลัก ๆ จะแบ่งเป็น 2 ส่วน คือ “ส่วนของประวัติศาสตร์” (Singapore History Gallery) ที่จะมีการบรรยายให้ผู้ชมได้ฟังข้อมูลจากการกดปุ่มตามหมายเลขที่ระบุไว้ในจุดจัดแสดง และ “ส่วนวิถีชีวิต” (Singapore Living Galleries) ที่เล่าอดีตถึงปัจจุบันของสิงคดปร์ ละเอียดจนมีครบตั้งแต่เรื่องของวิวัฒนาการ “แฟร์ชั่นและการช้อปปิ้ง” (Fashion Shopping for Identity) ที่จะแสดงเนื้อหาพร้อมตัวอย่างของเสื้อผ้าในยุคต่าง ๆ หรืออย่างเครื่องแต่งกายที่เราไม่เคยรู้จักมาก่อน เช่น “ผ้าเคบายา” (Sarong kebaya) หรือ “ส่าหรี” (Sari) แสดงวิวัฒนาการการตัดเย็บเสื้อผ้าในอดีตด้วยจักรเย็บผ้าแบบโบราณ “ภาพยนตร์และหนังตะลุง” (Film & Wayang Scripting a New Life) แสดงความเป็นมาของภาพยนตร์และมหรสพอื่น ๆ ในอดีตของ   สิงคโปร์ รวมถึงจัดแสดงเครื่องฉายภาพยนตร์และฟิล์มภาพยนตร์โบราณ “อาหารและการบริโภค” (Food Eating on the street) จะบอกเล่าถึงเรื่องอาหารการกินของชาวสิงคโปร์ที่ถือว่าเป็นอีกหนึ่งจุดขายของประเทศนี้ โดยเฉพาะจานเด่น ๆ อย่างข้าวมันไก่ ที่ทำให้ผู้ชมรู้สึกสนุกไปด้วยก็ตรงที่มีโอกาสได้ทดลองดมกลิ่นอาหารและเครื่องเทศได้จริง ๆ

พิพิธภัณฑ์อารยธรรมแห่งเอเชีย (Asian Civilisations Museums) ซึ่งจัดแสดงพัฒนาการทางสังคม การเมืองและเศรษบกิจของประเทศทั่วเอเชีย โดยเฉพาะประวัติศาสตร์และผลงานศิลปะจีนจะมีอยู่มาก และยังมีไกด์นำชมด้วยการบรรยายเป็นภาษาอังกฤษ



16. เทศกาล งานประเพณี

เทศกาล งานประเพณี 

  • ตรุษจีน สิงคโปร์

  วันตรุษจีน เชื่อกันว่าประเพณีนี้มีมานานกว่าสี่พันปีแล้ว จัดขึ้นเพื่อฉลองเทศกาลฤดูใบไม้ผลิ เดิมที่ไม่ได้เรียกว่าเทศกาลตรุษจีน แต่มีชื่อเรียกต่างกันตามยุคสมัย นั่นคือเมื่อ 2100 ปีก่อนคริสตศักราชจะเรียกว่า "ซุ่ย" ซึ่งมีความหมายถึงการโคจรครบหนึ่งรอบของดาวจูปิเตอร์ จนกระทั่งต่อมาในยุค 1000 กว่าปีก่อนคริสตศักราช เทศกาลตรุษจีนจะถูกเรียกว่าว่า "เหนียน" หมายถึงการเก็บเกี่ยวได้ผลอุดมสมบูรณ์นั่นเอง
   นอกจากนี้วันตรุษจีนยังมีชื่อเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า "วันชุงเจ๋" ซึ่งหมายถึงเทศกาลดูใบไม้ผลิ หรือขึ้นปีเพาะปลูกใหม่ เพราะช่วงก่อนตรุษจีนนั้นตรงกับฤดูหนาว ไม่สามารถทำการเกษตรได้ ดังนั้นเมื่อเข้าสู่ฤดูใบไม้ผลิที่มีอากาศเหมาะสมแก่การเพาะปลูก ชาวจีนจึงสามารถทำนา ทำสวน ได้อีกครั้งหลังจากผ่านพ้นฤดูหนาวมานั่นเอง
   ส่วนการกำหนดวันตรุษจีนนั้น ตามประเพณีเทศกาลตรุษจีนจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 23 เดือน 12 ตามปฏิทินจันทรคติของจีน ไปจนถึงวันขึ้น 15 ค่ำเดือนอ้ายตามปฏิทินจันทรคติของจีน และถือว่าคืนวันที่ 30 เดือน 12 เป็นวันส่งท้ายปีเก่า ส่วนวันที่ 1 เดือน 1 คือวันชิวอิก หมายถึงวันแรกของฤดูใบไม้ผลิ
เทสกาลตรุษจีน เป็นเทศกาลหนึ่งที่สำคัญของประเทศสิงค์โปร เนื่องจากประชากรส่วนใหญ่ของประเทศมีเชื้อสายจีน ถือว่าเป็นเทศกาลที่มีวันหยุดเทศกาลหนึ่ง ช่วงเทศกาลชาวสิงค์โปรเชื่อสายจีน มีประเพณีปฏิบัติเหมือนสากลทั่วไป คือมีการเตรียมงานเพื่อนเฉลิมฉลองเทศการตรุษจีน โดยจะเริ่มขึ้นตั้งแต่ปีหนึ่งเดือนก่อนวันตรุษจีน เพื่อเริ่มซื้อข้าวของต่างๆมาประดับตกแต่งบ้านเรือน และเตรียมทำความสะอาดครั้งยิ่งใหญ่ เนื่องจากมีความเชื่อว่าจะเป็นการปัดกวาดสิ่งที่ไม่ดีออกไปตลอกจนการตกแต่งประดับประดาไปด้วยสีแดงทั้งภายในบ้าน ทั้งประตู หน้าต่าง และประดับด้วยกระดาษสีแดงที่มีคำอวยพรให้อายุยืน ร่ำรวย อยู่ดีมีสุข สิ่งที่ถือเป็นสัญลักษณ์ของ วันตรุษจีนคือ “อั่งเปา” ซึ่งมีความหมายว่า กระเป๋าแดง หรืออาจใช้คำว่า “แต๊ะเอีย” ซึ่งหมายความว่า “ผูกเอว” จากที่คนสมัยก่อนชอบร้อยเงินเป็นพวกผูกไว้ที่เอว
   คำอวยพรที่นิยมกล่าวในช่วงวันตรุษจีน คือ Gong Xi Fa Cai หรือที่แปลว่า ขอให้ร่ำรวย
ประเพณีถือปฏิบัติ
1.ในวันสิ้นปี (ก่อนวันตรุษจีนของแต่ล่ะปี)จะมีการกำหนดการไหว้เจ้า เอาไว้หลายรูปแบบ เรียกว่า “วันไหว้”
2.ในวันก่อนสิ้นปี หน้าวันไหว้เจ้า ก็จะเรียกว่า.”วันจ่าย” ถือว่าเป็นวันสุดท้ายของปีที่เราจะต้องจับจ่ายซื้อของวันไหว้เจ้า ซื้อของใช้ต่างๆ ก่อนที่เค้าจะปิดร้านขายของหลายวัน
3.”วันซิวอิก” แปลว่า วันที่ 1 หรือวันแรกเริ่มต้น คนเชื้อชาติสิงคโปร์ จะไหว้ เทพเจ้าใช้ซิ้งเอี๊ย หรือเทพเจ้าแห่งโชคลาภ ในเวลากลางคืนหรือหลังเที่ยงคืนเข้าวันใหม่เป็นต้นไป วันซิวอิกใช้ แปลว่า โชค ซิ้ง และเอี๊ย แปลว่า เจ้า ซึ่งหลักการกำหนดของวันตรุษจีนและวันไหว้เจ้าของชาวสิงคโปร ก็จะแตกต่างกันออกไปทุกปี ขึ้นอยู่กับฤกษ์ยาม และทิศที่จะตั้งโต๊ะไหว้ ยังเป็นทิศและเวลาเฉพาะของแต่ละปี เพื่อความเป็นศิริมงคล ของไหว้ จะไหว้ง่ายๆ ด้วยส้มและโหงวเล็งทึ้งกับน้ำชา
กิจกรรมในช่วงเทศกาลตรุษจีนของประเทศสิงคโปร์

  • เทศกาลลดราคาครั้งใหญ่ Great Singapore Sale

  งานลดราคาสินค้าชั้นนำที่นักช้อปปิ้งมือโปรฯ ห้ามพลาด ลดดกกระหน่ำกระชากใจกันถึง 70% ทั้งสินค้าจิปาถะพื้นเมืองไปจนถึงแบรนด์สุดหรูระดับโลก
  เสิร์ชเอ็นจิ้น Skyscanner มีข้อมูลงานอภิมหางานเซลล์ประจำปีของเกาะสิงคโปร์มาฝาก งานนี้ห้ามพลาดเพราะหนึ่งปีมีหนที่หนุ่มสาวนักช้อปฯ ทุกรุ่นทุกวัยจะได้เพลิดเพลินกับการจับจ่ายสารพัดสินค้าในราคาประหยัดสูงสุดถึง 70% งานนี้บอกได้อย่างเดียวว่าไม่ไปไม่ได้แล้ว
   งานเทศกาลมหกรรมลดราคาสินค้าประจำปีของประเทศสิงคโปร์ที่จัดต่อเนื่องกันมาเป็นเวลา 20 ปี โดยในปีนี้จะเริ่มต้นลดราคากันตั้งแต่วันที่ 30 พฤษภาคม – 27 กรกฎาคม ให้โอกาสนักช้อปปิ้งมือโปรฯ เป็นเวลา 8 สัปดาห์ในการวางแผนมาจับจ่ายกันอย่างเต็มอิ่ม

  โดยการลดราคาครั้งใหญ่นี้ทุกห้างร้านตั้งแต่ร้านค้าเล็กๆ สินค้าท้องถิ่นไปจนห้างสรรพสินค้ายักษ์ใหญ่ แบรนด์ดังระดับโลกต่างก็พร้อมใจกันลดราคาสูงสุดถึง 70% พูดง่ายๆ เลยก็คือไม่ว่าคุณจะไปซอกไหน มุมไหนของเมือง คุณก็มั่นใจได้ว่าจะได้จับจ่ายสินค้าในราคาลดกระหน่ำแน่นอน มากไปกว่านั้นเหล่าร้านค้า โรงแรมที่พัก รวมไปถึงสายการบินก็จะพร้อมใจกันจัดแพคเกจสุดเก๋ ลดราคาค่าบริการเอาใจนักท่องเที่ยวและนักช้อปฯ ต่างชาติกันเต็มที่
  อ่านข้อมูลเพิ่มเติมโปรโมชั่นการลดกระหน่ำของห้างสรรพสินค้าและร้านแบรนด์เนมต่างๆ ได้ที่ มหกรรมลดราคาสินค้า เดอะเกรทสิงคโปร์แกรนด์เซลล์ 2014 (The Great Singapore Sale 2014)
  เปรียบเทียบโรงแรมทั้งหมดแล้วเลือกจองโรงแรมที่พักในสิงคโปร์ที่คุ้มสุด
เปรียบเทียบตั๋วทุกสายการบินแล้วเลือกจองตั๋วไปสิงคโปร์ราคาคุ้มสุด

แหล่งช้อปปิ้งสำคัญๆ ที่ไม่ควรพลาด
  ถนนออชาร์ด (Orchard)
ที่ตั้ง ร้านค้าในบริเวณนี้จะตั้งเรียงรายใกล้กันๆ เต็มสองฝั่งไปจนสุดถนน เริ่มตั้งแต่ถนนทังลิน (Tanglin Road) จนไปสุดถนนออชาร์ด ถนนออชาร์ดถือเป็นแหล่งช้อปปิ้งยอดนิยมขนาดใหญ่ที่มีห้างสรรพสินค้าถึง 22 แห่ง ดีพาร์ทเมนท์สโตร์ อีก 6 แห่ง และร้านค้าย่อยอื่นๆ รายทางอีกมากมาย
  เทศกาลพาเหรดชิงเก Chingay Parade Singapore
  เทศกาลแม่น้ำฮองเบา River Hongbao 
  • เทศกาลพาเหรดชิงเก Chingay Parade Singapore


ชินเกที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ เฉลิมฉลองเนื่องใน 2 โอกาส หนึ่งเพื่อฉลองตรุษจีนตามประเพณีที่ทำมา และสองเพื่อฉลองวันชาติสิงคโปร์ครบรอบ 50 ปี..


  •  เทศกาลแม่น้ำฮองเบา River Hongbao

   เทศกาลโคมไฟจัดขึ้นที่แม่น้ำสิงคโปร์และมารีในช่วงเทศกาลตรุษจีนมีการแสดงพลุที่ตระการตาขบวนเรือพาเหรดประดับไฟสวยงามและร้านหาบเร่แผงลอยต่างๆมากมาย


17. คำทักทาย

คำทักทาย

หนี ห่าว
จ่าว ชั่ง ห่าว
จง อู่ ห่าว
หวั่น ชั่ง ห่าว

18.คำบอกรัก

คำบอกรัก 


คำบอกรัก
หว่อ อ้าย หนี่

19.การนับเลข

การนับเลข


  1. หนึ่ง  -อี
  2. สอง-เอ้อ
  3. สาม -ซาน
  4. สี่-ซื่อ
  5. ห้า-อู่
  6. หก-ลิ่ว
  7. เจ็ด-ชี
  8. แปด-ปา
  9. เก้า-จิ่ว
  10. สิบ-ฉือ