วันพฤหัสบดีที่ 14 มกราคม พ.ศ. 2559

15. แหล่งท่องเที่ยว

แหล่งท่องเที่ยว 
1.ยูนิเวอร์แซล สตูดิโอ สิงคโปร์ (Universal Studios Singapore)

   ยูนิเวอร์แซล สตูดิโอ สิงคโปร์ สวนสนุกแห่งใหม่ในเครือบริษัทยูนิเวอร์แซล พาร์ค แอนด์ รีสอร์ท ที่ได้เปิดสวนสนุกในรัฐฟลอริดาและแคลิฟอร์เนียของสหรัฐ รวมถึงญี่ปุ่น ยูนิเวอร์แซล สตูดิโอ สิงคโปร์ เป็นสวนสนุกในเครือยูนิเวอร์แซลแห่งแรกที่เปิดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และกำลังจะเปิดที่ดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
   ในสวนสนุกยูนิเวอร์แซล สตูดิโอ สิงคโปร์ มีเครื่องเล่นทั้งหมด 24 ชนิด โดยเป็นเครื่องเล่นที่ออกแบบใหม่จำนวน 18 ชนิด พื้นที่สวนสนุกประกอบด้วยธีมปาร์คที่รวมตัวละครและสถานที่ในภาพยนตร์แอนิเมชั่นชื่อดังของบริษัทดรีมเวิร์คส์ แอนิเมชั่น คือมาดากัสการ์ (Madagascar)และเชร็ค (Shrek)
   ธีมปาร์คในยูนิเวอร์แซล สตูดิโอ สิงคโปร์ จะจำลองเกาะมาดากัสการ์ขึ้นมา ประกอบด้วย ทะเล เรือเดินสมุทร และป่าที่บรรดา 4 สหายคือ อเล็กซ์ มาร์ตี้ เมลแมนและกลอเรีย รวมถึงตัวละครเอกในเรื่องเข้าไปในผจญภัยอยู่ในเกาะแห่งนี้ ธีมปาร์คส่วนนี้มีชื่อว่า "มาดากัสการ์ : ป่วนป่าแอฟริกา (Madagascar : A Crate Adventure)"
   เครื่องเล่นในธีมปาร์คมาดากัสการ์ประกอบด้วยการนั่งเรือผ่านฉากต่างๆที่เป็นส่วนหนึ่งของภาพยนตร์ ซึ่งเหมือนกับได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของการผจญภัยในเรื่องมาดากัสการ์ด้วยเช่นกัน
    ธีมปาร์คที่อยู่ใกล้ๆกันคือ ปราสาทฟาร์ ฟาร์ อเวย์ (FarFar Away Castle) ของฮีโร่ตัวเขียวเชร็ค และเจ้าหญิงฟีโอน่าในภาพยนตร์เรื่องเชร็ค ซึ่งเป็นปราสาทของกษัตริย์ฮาโรลด์และเป็นที่ประทับของเจ้าหญิงฟีโอน่า ตัวปราสาทมีความสูง 40 เมตร สิ่งที่น่าสนใจในธีมปาร์คแห่งนี้คือมัลติมีเดียเชร็ค 4D, การโชว์ร้องเพลงของดองกี้ และเครื่องเล่นมหาสนุกเมจิก โพชั่น

  ในโซนธีมปาร์คมาดากัสการ์และปราสาทฟาร์ ฟาร์ อเวย์ มีเครื่องเล่นอื่นๆอีก เช่น โรลเลอร์ โคสเตอร์ ที่มีชื่อว่าเอนเชนเท็ด แอร์เวย์, ม้าหมุนบีช ปาร์ตี้ และกิจกรรมอื่นๆอีกมากมาย นอกจากนี้ยังมีร้านอาหาร ร้านขายของที่ระลึกเกี่ยวกับตัวละครในภาพยนตร์ของดรีมเวิร์คส์อีก 10 แห่ง
   นอกจากธีมปาร์ค 2 แห่งในยูนิเวอร์แซล สตูดิโอ สิงคโปร์ แล้วยังมีโซนที่น่าสนใจอีก 5 โซน เช่น เมืองไซไฟ, โซนอียิปต์, โซนนิวยอร์ก, โซนเดอะลอสต์เวิลด์ ที่จำลองฉากจากภาพยนตร์เรื่องจูราสสิคปาร์ค และโซนฮอลลีวู้ด บูเลอวาร์ด นอกจากนี้ยังมีสตูดิโอสำหรับการแสดงสดที่เกี่ยวข้องกับการถ่ายทำภาพยนตร์ด้วย 

  2.สวนสัตว์ Singapore Zoo
 สวนสัตว์สิงคโปร์ (Singapore Zoological Gardens) อีกหนึ่งแหล่งท่องเที่ยวที่ผู้มาเยือนสิงคโปร์ไม่ควรพลาด เริ่มเปิดเมื่อ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2516 สวนสัตว์แห่งนี้เป็นที่อยู่ของสัตว์กว่า 2,000 ตัว ซึ่งมีทั้งสัตว์ป่า สัตว์เลื้อยคลาน และสัตว์ปีก สวนสัตว์เปิดแห่งนี้ซึ่งมีสัตว์ป่านานาชนิด ที่น่าสนใจให้ชม โดยจัดสภาพแวดล้อมสำหรับที่อยู่อาศัยของสัตว์ต่างๆ โดยใช้กำแพงหินและลำธารแทนการใช้กรงขัง สวนสัตว์สิงคโปร์ได้ชื่อว่าเป็น "สวนสัตว์ที่สวยที่สุดในโลกแห่งหนึ่ง" สวนสัตว์มีพื้นที่ทั้งหมด 90 เฮกเตอร์ ส่วนที่เป็นพื้นที่สำหรับสัตว์อาศัยอยู่มี 28 เฮกเตอร์ 

จุดเด่นของสวนสัตว์สิงคโปร์ ภายในจะแบ่งออกเป็นโซนต่างๆ11โซนด้วยกันได้แก่
1. Frozen Tundra พบกับหมีขั้วโลกขาว และสัตว์ที่อาศัยอยู่แถบขั้วโลกเหนือ
2. Wild Africa สัตว์ป่าจากแอฟริกา
3. Fragile Forest ตัดแสดงในส่วนที่เกี่ยวกับป่าฝนเขตร้อน
4. Australian Outback
5. Great Rift Valley of Ethiopia
6. Treetop Trail
7. Gibbon Island
8. Primate Kingdom
9. Reptile Garden
10. Critters Longhouse
11. Tropical crops and orchid garden



 ไฮไลท์ของที่นี่คือ เสือโคร่งขาว, ช้างเอเชีย, Proboscis Monkey หรือลิงจมูกยาว, อุรังอุตัง, ฮิปโปแคระ, ตัวตุ่นเปลือย และอื่นๆ 



3.สวนดอกไม้ Botanical Gardens
  

   ถ้าใครเคยได้ไปประเทศสิงคโปร์จะสังเกตเห็นได้ว่าประเทศนี้ต้นไม้ใหญ่ เยอะจริงๆ สองข้างทางถนนร่มรื่นตลอดเส้นทาง ต้นไม้อายุหลาย 10 ปี สูงราวตึก 4-5 ชั้น เป็นปอดอย่างดีให้กับคนสิงคโปร์ ต้นไม้ที่ว่านี้ไม่ได้ขึ้นเองตามธรรมชาติแต่เป็นความพยายามที่จะพัฒนาเมืองให้เป็นเมืองแห่งสวน “greening Singapore” หรือ “Garden City” ความพยายามนี้เริ่มตั้งแต่ตอนที่ Sir Thomas Stamford Raffles เข้ามาดูแลสิงคโปร์ และมีการสืบทอดความตั้งใจนี้มาเรื่อยๆ จนถึงปัจจุบันนี้
    สวนพฤกษศาสตร์สิงคโปร์ (Singapore Botanic Gardens) ก็เป็นหนึ่งในความตั้งใจที่จะทำให้สิงคโปร์เป็นเมืองแห่งสวน จากการหาข้อมูลก็พบว่าสวนพฤกษศาสตร์แห่งนี้มีอะไรที่น่าสนใจหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการก่อตั้งมาตั้งแต่ปี ค.ศ 1859 มีพืชหลากหลายสายพันธุ์ มีป่าฝน (Rainforest) สวนกล้วยไม้สายพันธุ์ใหม่ เป็นสวนพฤกษศาสตร์ที่เปิดตั้งแต่ 5.00 – 24.00 น. ซึ่งเป็นสวนฯ ที่ปิดดึกที่สุดในโลก และไม่มีการเก็บค่าเข้าชม ยกเว้นในส่วนของ National Orchid Garden
    ด้วยความที่ผมเป็นคนชอบต้นไม้อยู่แล้ว เลยคิดว่ามาสิงคโปร์ครั้งนี้จะมาชมสวน Singapore Botanic Gardens และกลับไปเขียนรีวิวดีๆ ให้กับคนที่สนใจมาชมสวนแห่งนี้ รีวิวที่มีในอินเตอร์เนต pantip ในตอนนี้ก็เป็นรีวิวที่ไปมานานแล้ว และไม่ค่อยละเอียดเท่าไหร่
  
   ที่ตั้งของ Singapore Botanic Gardens
จะอยู่ห่างจาก MRT Orchard ประมาณ 1.5 กิโลเมตร และเมื่อไม่นานมานี้มีการเปิดใช้งานสถานีใหม่ MRT Botanic Gardens ซึ่งอยู่ติดกับ Singapore Botanic Gardens ทางฝั่งทิศเหนือของสวน ทำให้การเดินทางไปสวนพฤกษศาสตร์ ง่ายและสะดวกมากขึ้น

4.เรือภัตตาคาร Boat Quay and Clarke Quay
เมืองไทยมีเรือหางยาว สิงคโปร์ก็มีเรือ Bumboat เอาไว้ให้บริการนักท่องเที่ยวที่อยากสัมผัสทัศนียภาพสองฝั่งแม่น้ำสิงคโปร์

เจ้า Bumboat คือเรือท้องแบน ที่แต่เดินเอาไว้ขนถ่ายสินค้าจากสำเภาใหญ่นอกปากอ่าวเข้ามาในตัวเมืองชั้นใน ทุกวันนี้ถูกดัดแปลงกลายเป็นเรือท้องเที่ยวที่เป็นสัญลักษณ์อย่่างหนึ่งของประเทศสิงคโปร์ แถมได้รับความนิยมอย่างกว้างขวางมีนักท่องเที่ยวที่ต้องการสัมผัสชีวิตของเมืองริมน้ำทยอยมาใช้บริการไม่ได้หยุดหย่อน


5.ชิงช้าสวรรค์ Singapore Flyer
 Singapore Flyer สิงคโปร์ฟลายเยอร์ ชิงช้าสวรรค์ยักษ์ ตั้งเด่นอยู่บริเวณอ่าวมาริน่าเบย์ มีความสูงเท่ากับตึก 42 ชั้น หรือ 165 เมตร ทำให้มันขึ้นชื่อว่าเป็นชิงช้าสวรรค์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกเลย แต่ละแคปซูลจะสามารถจุคนได้ทั้งหมด 28 คน รอบการหมุนใช้เวลาประมาณ 30 นาทีให้คุณได้มีเวลาเก็บภาพวิวสวยและถ่ายรูปคู่กับบรรยากาศด้านบนไว้เป็นที่ระลึกได้



  6.พิพิธภัณฑ์แห่งชาติสิงคโปร์



  พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติสิงคโปร์ (National Museum of Singapore) ซึ่งเป็นพิพิธภัณฑ์ที่เก่าแก่ที่สุดในสิงคโปร์ ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2392 มีอายุกว่าร้อยปีและยังเป็นพิพิธภัณฑ์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศสิงคโปร์ ก่อตั้งในปี พ.ศ. 2392 มีอายุกว่าร้อยปีและยังเป็นพิพิธภัณฑ์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศสิงคโปร์อีกด้วย มีการออกแบบอาคารด้วยศิลปะเรอเนซองส์ เป็นศูนย์รวมของประวัติศาสตร์และวิวัฒนาการของสิงคโปร์ตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน พิพิธภัณฑ์แห่งนี้เคยเป็นอาคารห้องสมุดก่อนในตั้งแต่ปี พ.ศ. 2430 หลังจากนั้นได้ปิดปรับปรุงเพื่อบูรณะใหม่และเปิดให้เข้าชมได้อีกครั้งในปัจจุบัน ภายในจะจัดแสดงทั้งลักษณะของภาพนิ่ง ภาพเคลื่อนไหว แสง สี เสียง กลิ่น เรียกว่ามีครอบทุกอย่าง หลัก ๆ จะแบ่งเป็น 2 ส่วน คือ “ส่วนของประวัติศาสตร์” (Singapore History Gallery) ที่จะมีการบรรยายให้ผู้ชมได้ฟังข้อมูลจากการกดปุ่มตามหมายเลขที่ระบุไว้ในจุดจัดแสดง และ “ส่วนวิถีชีวิต” (Singapore Living Galleries) ที่เล่าอดีตถึงปัจจุบันของสิงคดปร์ ละเอียดจนมีครบตั้งแต่เรื่องของวิวัฒนาการ “แฟร์ชั่นและการช้อปปิ้ง” (Fashion Shopping for Identity) ที่จะแสดงเนื้อหาพร้อมตัวอย่างของเสื้อผ้าในยุคต่าง ๆ หรืออย่างเครื่องแต่งกายที่เราไม่เคยรู้จักมาก่อน เช่น “ผ้าเคบายา” (Sarong kebaya) หรือ “ส่าหรี” (Sari) แสดงวิวัฒนาการการตัดเย็บเสื้อผ้าในอดีตด้วยจักรเย็บผ้าแบบโบราณ “ภาพยนตร์และหนังตะลุง” (Film & Wayang Scripting a New Life) แสดงความเป็นมาของภาพยนตร์และมหรสพอื่น ๆ ในอดีตของ   สิงคโปร์ รวมถึงจัดแสดงเครื่องฉายภาพยนตร์และฟิล์มภาพยนตร์โบราณ “อาหารและการบริโภค” (Food Eating on the street) จะบอกเล่าถึงเรื่องอาหารการกินของชาวสิงคโปร์ที่ถือว่าเป็นอีกหนึ่งจุดขายของประเทศนี้ โดยเฉพาะจานเด่น ๆ อย่างข้าวมันไก่ ที่ทำให้ผู้ชมรู้สึกสนุกไปด้วยก็ตรงที่มีโอกาสได้ทดลองดมกลิ่นอาหารและเครื่องเทศได้จริง ๆ

พิพิธภัณฑ์อารยธรรมแห่งเอเชีย (Asian Civilisations Museums) ซึ่งจัดแสดงพัฒนาการทางสังคม การเมืองและเศรษบกิจของประเทศทั่วเอเชีย โดยเฉพาะประวัติศาสตร์และผลงานศิลปะจีนจะมีอยู่มาก และยังมีไกด์นำชมด้วยการบรรยายเป็นภาษาอังกฤษ



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น